ขุดพบโซ่ตรวน ศาสตราวุธโบราณร่วม 300 ชิ้น ที่นางรอง

550

ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ขุดพบโซ่ตรวนนักโทษและศาสตราวุธโบราณร่วม 300 ชิ้น คาดอายุหลายร้อยปี สันนิษฐานเป็นแดนประหารและคุกสมัยโบราณ เบื้องต้นเก็บรักษาไว้ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน พร้อมจัดเวรยามดูแล ก่อนประสานสำนักศิลปากรที่ 12 ตรวจสอบ เจ้าของที่ขุดพบ เผยพ่อตาที่เสียชีวิตมาเข้าฝันว่ามีของโบราณฝังอยู่ ชาวบ้านทราบข่าวแห่กราบไหว้

วันนี้ (17 ส.ค. 59) ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลชุมแสง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นับร้อยคนต่างพากันแห่มาดูวัตถุโบราณ หลังทราบข่าวว่ามีการขุดพบเป็นจำนวนมากที่บริเวณสวนของนายสุพล เจียมผักแว่น อายุ 52 ปี และนางสุวรรณา เจียมผักแว่น อายุ 47 ปี สองสามีภรรยาชาวบ้านบ้านเจริญสุข ม.11 บ้านหนองเจริญสุข ต.ชุมแสง อ.นางรอง โดยวัตถุโบราณที่ขุดพบมีทั้งเครื่องมือการเกษตร โซ่ตรวนนักโทษ และศาสตราวุธโบราณ มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์เกือบทั้งหมด ถูกฝังใต้พื้นดินลึกประมาณ 50 เซนติเมตร

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้มาร่วมตรวจสอบจดบันทึกรายกการวัตถุโบราณที่ขุดพบดังกล่าวด้วย โดยจากการตรวจนับวัตถุโบราณที่ขุดพบมีทั้งหมดเกือบ 300 ชิ้น พร้อมทำบันทึกไว้และรายงานให้นายเพชร สุพพัตกุล นายอำเภอนางรอง รับทราบแล้ว

ทั้งนี้ สองสามีภรรยาเจ้าของที่ที่ขุดพบได้เชิญหมอทรงมาทำพิธีเข้าทรงดู เชื่อว่าวัตถุโบราณที่พบมีอายุหลายร้อยปี แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าอยู่ในยุคสมัยใด ทั้งยังสันนิษฐานว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นแดนประหาร และคุกสมัยโบราณ เพราะวัตถุโบราณที่พบส่วนใหญ่เป็นเครื่องพันธนาการที่ใช้สำหรับนักโทษ ซึ่งผู้นำชุมชนได้ประสานสำนักศิลปากรที่ 12 จ.นครราชสีมา เพื่อมาตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดอีกครั้งว่า วัตถุโบราณที่พบอยู่ในยุคสมัยใดและมีอายุราวกี่ปี เบื้องต้นได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน พร้อมจัดเวรยามดูแลรักษาด้วย

นายสุพล เจียมผักแว่น เล่าว่า ก่อนจะขุดพบวัตถุโบราณดังกล่าว พ่อตาซึ่งเสียชีวิตไปกว่า 20 ปีแล้วได้มาเข้าฝันว่ามีของมีค่าฝังอยู่ใต้ดินในสวนดังกล่าว รุ่งเช้าจึงใช้จอบมาลองขุดดู พอขุดลึกประมาณ 50 เซนติเมตรเมตรก็พบเคียวและโซ่ตรวนสมัยโบราณฝังอยู่จริง จึงได้นำธูปเทียนมาจุดกราบไหว้ตามความเชื่อ ก่อนจะนำวัตถุโบราณที่ขุดพบขึ้นมาจากหลุมใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พร้อมแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบและทำบันทึกไว้

ด้านนายอัษฎาวุธ เกตุผักแว่น กำนันตำบลชุมแสง กล่าวว่า จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ทราบว่าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเมืองเก่าแก่ ชื่อว่า “เมืองไผ่” หรือเมือง “ผไล” ที่ผ่านมาเคยมีชาวบ้านขุดพบวัตถุโบราณหลายครั้ง ทั้งเครื่องปั้นดินเผา หม้อไห เครื่องประดับ พระพุทธรูปเก่าแก่ รวมถึงกระดูกมนุษย์โบราณด้วย

สันนิษฐานได้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเมืองเก่าแก่ และจากข้อมูลก็พบว่าในอดีตเคยมีนักล่าสมบัติมาลักลอบขุดหาของเก่าโบราณในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ส่วนวัตถุโบราณที่ขุดพบในครั้งนี้ชาวบ้านจะส่งมอบให้กรมศิลปากรเพื่อเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป