กาฬสินธุ์ พัฒนาลายขิตไดโนเสาร์ใหม่

193

ที่ศูนย์แก้จนคนพอเพียง บ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 6 บ้านสิงห์สะอาด ตำบลสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วยนางศุภวรรณ พงษ์นุ่มกุล พัฒนาการอำเภอสหัสขันธ์ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าของการพัฒนาลายผ้าประจำอำเภอ ภายใต้โครงการอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าพื้นถิ่น แพรวากาฬสินธุ์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นผู้ดำเนินโครงการ นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า ลายไดโนเสาร์ที่ถักทอกันในพื้นที่อำเภอสหัสขันธ์ เป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์กินพืชอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งลวดลายผ้าจากเดิมมีเพียงไดโนสาร์ ต่อมาได้พัฒนาให้เป็นลายขิตไดโนเสาร์ มีทั้งขิตผ้าฝ้าย ผ้าไหม เพื่อนำมาตกแต่งประดับเสื้อ ตะกร้า และของที่ระลึกอื่น ๆ และเพื่อให้สอดคล้องกับเรื่องราวที่เป็นตำนานของการค้นพบ “ตำนานเกิดนิมิต สู่ขิตไดโนเสาร์สหัสขันธ์” ทางอำเภอสหัสขันธ์ ได้ร่วมบูรณาการกับทุกหน่วยงานพัฒนาให้เกิดขิตไดโนเสาร์ลายใหม่ ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ที่ออกท่วงท่าในการเดิน คอยาว หางยาว ตัวอ้วน เปลี่ยนอิริยาบถจากเดินตามหลัง ให้หันหน้าชนกัน ผสมผสานกับบายศรีสัญลักษณ์แห่งศรัทธาอีสานสื่อถึงการระลึกถึงพ่อแม่ครูอาจารย์ โดยเฉพาะพระเทพมงคลวชิรมุณี (หา สุภโร) หรือหลวงปู่ไดโนเสาร์ ที่เกิดนิมิตก่อนจะค้นพบไดโนเสาร์ที่ภูกุ้มข้าวอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งลายไดโนเสาร์ชุดใหม่จะเป็นลายขิต ผืนผ้าทอ และชายผ้าขาวม้าทอมือของศูนย์แก้จนคนพอเพียง ซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพทอผ้าบ้านสิงห์สะอาด จะได้สานต่อและผลิตผ้าออกจำหน่ายในตลาดเพื่อสร้างรายได้ต่อไป นางหวัน พรหมวงศ์ สมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านสิงห์สะอาด กล่าวว่า ในการดำเนินงานต้องค้นหาลายผ้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดเด่นของอำเภอสหัสขันธ์ 1 ลายผ้า ยังจะต้องนำส่งเรื่องราวของลายผ้า ซึ่งกลุ่มได้รับความเมตตาจากท่านนายอำเภอสหัสขันธ์ พัฒนาการอำเภอ และส่วนราชการต่าง ๆ ให้คำแนะนำ จนเข้าสู่กระบวนการประยุกต์ลวดลายไดโนเสาร์ ที่มีนางศรีวรรณ โภควิบูลย์ เป็นผู้ออกแบบลายผ้าไดโนเสาร์ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมีความสวยงามสามารถเป็นทั้งลายขิตเพื่อตกแต่งเสื้อผ้า ของใช้ ผ้าถุง และการตัดเย็บชุดเสื้อผ้า มีทั้งแบบไหม และฝ้าย นอกจากนี้ผ้าขาวม้าทอมือ ที่ได้เติมแต่งขิตไดโนเสาร์ลงในผืนผ้าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะพัฒนาสู่ตลาดสร้างรายได้ตลอดทั้งปีให้กับกลุ่มทอผ้าแห่งนี้ได้ “เดิมเป็นกลุ่มทอผ้าไหมแพรวา ที่ต้องใช้เวลาทอนาน 1 ผืน ใช้เวลาทอ 2-3 เดือน ทำให้รายได้ของกลุ่มไม่ต่อเนื่อง จึงได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเป็นผ้าขาวม้า ขิตไหม ขิตฝ้ายเสริมเพื่อเพิ่มช่องทางหารายได้ จนกระทั่งผ้าขาวม้า และขิต ที่นี่ขายดี นักท่องเที่ยวชื่นชอบ จึงเป็นนิยมของกลุ่มที่ว่า ผ้าไหมแพรวาเป็นรายได้รายเดือน ผ้าขาวม้าจะเป็นรายได้รายวัน มีรายได้เดือนละ 3,000-5,000 บาท เป็นรายได้เสริมในครอบครัว ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสหัสขันธ์ เป็นสินค้าโอทอปประจำอำเภอ งานทอมือ 100% ของกลุ่มชาวบ้าน ก่อนจะได้พัฒนาลายขิตไดโนเสาร์ ผ้าฝ้าย ผ้าไหม , ผ้าขาวม้า ตัดชุด และ ผ้าพันคอขาวม้า ที่มีขิตไดโนเสาร์ ประดับตกแต่งในผืนผ้า จำหน่ายในราคาย่อมเยา โดยตอนนี้ทางกลุ่มซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 25 คน บางคนนั่งทอที่บ้านบางคนมานั่งทอที่ศูนย์แก้จนฯ สลับหมุนเวียนกันไป เพราะวิถีทอผ้าเป็นวิถีดั้งเดิมของคนบ้านสิงห์สะอาด พ่อแม่ปู่ย่าตายายทิ้งมรดกไว้ให้ จึงต้องอนุรักษ์เอาไว้ ทั้งนี้ต้องเร่งผลิตผลิตภัณฑ์ผ้าทอของกลุ่มให้มากที่สุดเพราะมีลูกค้าต้องการจำนวนมากแต่ข้อจำกัดในการผลิต 1 คน จะทอได้เพียง 1-2 ผืนต่อวันเท่านั้น และช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงเตรียมทำนา อาจจะต้องว่างเว้นการทอผ้าไปสักพักหลังทำนาเสร็จก็กลับมาเริ่มทออีกครั้ง ซึ่งสามารถรับออเดอร์ไว้เพื่อผลิตส่งให้กับผู้สนใจ ทั้งนี้ก็อยากให้มาสนับสนุนสินค้าจากชาวบ้านกันเยอะๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสหัสขันธ์” นางหวัน กล่าว