กิเลน สัตว์เทพเจ้าในตำนานของจีน

2000

กิเลน (Qilin, Kylin หรือ Kirin) เป็นชื่อภาษาจีนที่ใช้เรียกสัตว์ในเทพนิยายของจีน ชาวไทยรู้จักกิเลนของจีนมานานแล้ว

ปรากฏในสมุดภาพสัตว์ป่าหิมพานต์ที่ช่างโบราณได้ร่างแบบสำหรับผูกหุ่นเข้า กระบวนแห่พระบรมศพครั้งรัชกาลที่ 3 ก็มีรูปกิเลนจีนทำหนวดยาว ๆ ส่วนภาพกิเลนแบบไทย มีกระหนกและเครื่องประดับเป็นแบบไทย ๆ การจัดลายประกอบผิดไปจากในสมุดภาพสัตว์ป่าหิมพานต์ของโบราณนั้นบ้าง ที่แปลกอีกอย่างหนึ่ง คือ กิเลนไทยมีสองเขา ของจีนแท้ ๆ มีเขาเดียว ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของกวีเอกสุนทรภู่ ก็มีสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายกิเลนนี้ในเรื่องด้วย คือ ม้ามังกร หรือ ม้านิลมังกร นั่นเอง เชื่อว่า กิเลนมีที่มาจากยีราฟ ที่มากับเรือสินค้าที่กลับจากเบงกอลในยุคจักรพรรดิหย่งเล่อ (ค.ศ. 1402-1424) แห่งราชวงศ์หมิง โดยนำมาจากเมืองมาลินดี (เคนยา) กลับโดยผ่านนานกิง ซึ่งเป็นสัตว์ที่ชาวจีนไม่เคยเห็นมาก่อน จึงเชื่อว่าเป็นกิเลน และทรงโปรดให้จิตรกรวาดภาพกิเลนเอาไว้ประดับในพระราชวัง ต่อมาภาพนี้ชำรุดเสียหาย ต่อมาในยุคราชวงศ์ชิง พระจักรพรรดิจึงสั่งให้วาดเอาไว้

ถ้าเป็นตัวผู้เรียกว่า “กี” ถ้าเป็นตัวเมียเรียกว่า “เลน” หรือ “กิเลน” กิเลน ตามตำนานจีนว่ามีรูปร่างเหมือนกวาง แต่มีเขาเดียว หางเหมือนวัว หัวเป็นมังกร เท้ามีกีบเหมือนม้า (บางตำราว่ามีตัวเป็นสุนัข ลำตัวเป็นแอนทิโลป บ้างก็ว่า ลำตัวเป็นกวางชะมด ใบหน้าคล้ายหมาป่า และบางตัวก็มีสองเขาหรือสามเขา เกิดจากธาตุทั้งห้า คือ ดิน, น้ำ, ไฟ, ไม้ และโลหะ ผสมกัน

เชื่อว่ามีอายุอยู่ได้ถึงพันปี และถือว่าเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี ปรากฏให้เห็นเมื่อใด ก็จะเกิดผู้มีบุญมาปกครองบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุขเมื่อนั้น เช่น ในยุคของฝูซีเป็นผู้ปกครองโลก กิเลนได้ปรากฏตัวขึ้นที่แม่น้ำฮวงโห หลังกิเลนมีลายอักขระจารึก ซึ่งต่อมาได้พัฒนากลายมาเป็นตัวอักษร กิเลนถือเป็นหนึ่งในสี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประกอบด้วย หงส์, เต่า, มังกร และกิเลน (บ้างว่าเป็น เสือ)