คนอีสานแห่เดินทางกลับทำงาน

667

วันนี้ (2ม.ค.59) บรรยากาศการเดินทางกลับทำงานหลังเสร็จสิ้นเทศกาลปีใหม่ ถนนมิตรภาพช่วงผ่านจังหวัดขอนแก่นเส้นทางฝั่งขาขึ้นมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่บริเวณสามแยกท่าพระ ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแกน เส้นทางสายหลักที่สำคัญของผู้ใช้รถใช้ถนนจากพื้นที่ภาคอีสานตอนบนที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพ มีปริมาณรถสะสมหนาแน่นตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ขณะที่สี่แยกบ้านไผ่ไปจนถึง อ.พล มีปริมาณรถสะสมอย่างต่อเนื่อง แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ

แต่จุดที่มีสภาพการจราจรติดขัดอย่างหนักคือที่ สะพานต่างระดับข้ามทางรถไฟยาวไปจนถึงหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงพล รถยนต์เคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ต้องปิดสัญญาณไฟจราจรแทนการเปิดระบบอัตโนมัติ และให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและจัดระบบการจราจรเพื่อความคล่องตัว รวมทั้งการปิดจุดกลับรถในหลายจุด

พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รองผู้บังการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจจุดบริการประชาชนในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น พร้อมตรวจสภาพจราจรบนถนนมิตรภาพขาขึ้นที่มุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครราชสีมา ในเขตอำเภอเมืองขอนแก่นพบว่า มีปริมาณรถหนาแน่น โดยได้กำชับให้ตำรวจจราจรใช้วิธีการควบคุมสัญญาณไฟจราจรตามสี่แยกต่างๆ ใช้วิธีกดสัญญาณไฟควบคุมแทนการตั้งสัญญาณไฟอัตโนมัติ เพื่อช่วยในการระบายรถ

ส่วนที่ถนนมิตรภาพช่วงหลักกิโลเมตรที่ 287-283 ตำบลโนนศิลา อำเภอโนนศิลา และที่ถนนมิตรภาพหลักกิโลเมตรที่ 263-258 ตำบลพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น กองกำกับการ 2 กองบังคับการ 4 ตำรวจทางหลวง ได้เปิดช่องทางจราจรเพิ่มอีก 1 ช่องทาง เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เพื่อเร่งระบายรถบนถนนมิตรภาพ หลังพบว่าการจราจรติดขัดยาวกว่า 10 กิโลเมตร โดยสามารถระบายรถได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากปริมาณรถยนต์ยังมีจำนวนมาก เพราะประชาชนส่วนใหญ่เลือกเดินทางกลับก่อนวันทำงานที่จะเริ่มในวันจันทร์ พร้อมแนะนำประชาชนที่เดินทางเข้ากรุงเทพ ให้ใช้เส้นทางขอนแก่น-ชัยภูมิ แทนการใช้ถนนมิตรภาพ เพื่อเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด

ขณะที่นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ตลอดช่วง 4 วัน ตามมาตรการป้องปันและเฝ้าระวังอันตรายเทศกาลปีใหม่ภาพรวมทั้ง 26 อำเภอมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทั้งหมด 18 ครั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 รายและเสียชีวิต 3 ราย ขณะที่การเรียกตรวจรถในทุกเส้นทางรวมกว่า 116,770 คัน

นอกจากนี้ได้กวดขันจับกุมผู้ขับขี่รถขณะเมาสุราได้รวมทั้งหมด 212 ราย และยึดรถไปแล้วทั้งหมด 70 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 60 คันและรถยนต์ 10 คัน

ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000000377