ตำนานยุค 90 ศึกเทพสวรรค์ ชูราโตะ

1040

ในศึกประลองระหว่าง “ฮิดากะ ชูราโตะ” และ “คุโรกิ ไก” ทั้ง 2 คนนั้นต่างเป็นเพื่อนสนิทกันที่เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งทางด้านศิลปะการต่อสู้กันมานาน

ประมือกันมานับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ยังเยาว์วัย กระทั่งเติบโตขึ้น ในระหว่างที่พวกเขากำลังจะตัดสินแพ้ชนะกันในการต่อสู้นั้น ก็มีแสงสว่าง ส่องวาบลงมาจากฟ้า อาบท่วมร่างของ ชูราโตะ และ ไก เอาไว้ ก่อนที่จะนำพาพวกเขาไปยัง “ดินแดนแห่งเทพ เทนคูไค” ที่นั่น ชูราโตะฟื้นขึ้นมาในสภาพที่ไม่รู้ว่า ทำไมตัวเองถึงถูกพามายังดินแดนแห่งที่ว่า แถมในมือยังถือไอเทมลึกลับที่มีรูปร่างเหมือน “สิงโตทอง” แต่ที่ซ้ำร้ายคือ เค้ากลับต้องโดนไล่ล่าจาก “ไก” เพื่อนของเขาที่ถูกดึงตัวมาที่ดินแดนแห่งนี้พร้อมๆกัน ที่สวมชุดเกราะประหลาด และตามล่าเขา อีกทั้งยังทำทีเหมือนไม่เคยรู้จักเขามาก่อน

ในวินาทีนั้น เทพสาวนาม “ลัคชู” ที่ได้พบเจอชูราโตะตอนสลบนั้น ได้แนะนำให้ชูราโตะ ใช้“ชาคตี้” ไอเทมรูปสิงโตทองนั้น ทำการ “สวมเกราะเหล็ก” เพื่อสกัดกั้นการโจมตีของไก ในวินาทีที่ชูราโตะกำลังจะเสียที ไอเทมลึกลับในมือของชูราโตะก็เปล่งประกาย สุดท้าย ชูราโตะก็สวมชุดเกราะสีขาวที่มีภาพลักษณ์ของราชสีห์แล้วเข้าสู้กับไก

หลังจากที่ชูราโตะได้รับการช่วยเหลือ เขาก็ถูกพาตัวเข้าพบกับ “เทพี วิชนุ” ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของดินแดนเทนคูไค และที่นั่น ทำให้เขารู้ถึง การรุกรานของเผ่านักรบนาม “อาซูรา” ที่ป่วนดินแดนเทนคูไคมาตั้งแต่หมื่นปีก่อน และที่สำคัญ ยังทำให้ชูราโตะ รู้ถึงชาติกำเนิดในภพก่อนของตัวเอง ว่าตัวของเขานั้นคือ “ชูราโอ ชูราโตะ” 1 ใน 8 เทพนักรบแห่งเทนคูไค รวมถึง ตัวของไกด้วย ที่เป็น 1 ใน 8 เทพนักรบในอดีตชาติ และถูกดึงตัวกลับสู่ภพภูมิเดิมของพวกเขาเพื่อทำการเตรียมพร้อมสู้รบกับเผ่าอาซูร่า ที่จะกลับมารุกรานดินแดนเทนคูไคอีกครั้งในรอบ 1 หมื่นปี

แต่ยังไม่ทันที่จะได้เตรียมทำศึก เทพีวิชนุ ก็โดน อินดร้า คนสนิทที่เป็นเผ่าอาซูร่าแฝงตัวมา สาปให้กลายเป็นหิน และใส่ความว่า ชูราโตะ กับ “เทนโอ ฮิวงะ” ว่าเป็นคนร้าย เพื่อทำให้ กลุ่มเทพนักรบนั้นแตกคอและอาจจะถึงขั้นหันมาสู้กันเอง

กลุ่มของชูราโตะ ที่ต้องหลบหนีออกจากเทนคูไค จำเป็นต้องรวบรวมกลุ่มของนักรบเทพขึ้นมาใหม่ เพื่อกลับไปกู้ชื่อในดินแดนเทนคูไคอีกครั้ง แต่ยังดีที่ยังสามารถประสานรอยร้าวกับกลุ่ม 8 นักรบเทพบางคน ให้เข้าใจความจริงกันได้ว่า อินดร้า เป็นผู้ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เทพีวิชนุ กลายเป็นหิน พวกชูราโตะ ต้องฝ่าพื้นที่ของโซน เทนคูเดนที่มีมากถึง 300 ชั้นเข้าไปเพื่อกลับสู่แดนเทนคูไคให้ได้ แต่ในเวลาเดียว นับตั้งแต่ที่ เทพีวิชนุกลายเป็นหิน รอบๆดินแดนก็เริ่มแห้งแล้งและเข้าสู่กลียุคพวกเขาจำเป็นต้องปลดปล่อย “ลำแสงศักดิ์สิทธิ์” ที่อยู่ในภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ที่จะเป็นกลจักรสำคัญที่จะช่วยพลิกสถานการณ์ได้ และเพื่อเปิด “ประตูสู่ฟากฟ้า”

ระหว่างทาง พวกเขาต้องต่อสู้กับกลุ่ม “สามคมเขี้ยวอสูร” สังกัดเผ่าอาซูร่าที่เคยโดนเทพีวิชนุ ปิดผนึกไว้เมื่อ 1 หมื่นปีก่อน ที่ฟื้นกลับมาอีกครั้ง แถมยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกับ “เทรลโอ” 1 ในกลุ่มสามคมเขี้ยวอสูร ที่จัดการลบความทรงจำเกี่ยวกับดินแดนเทนคูไคของชูราโตะไปจนหมด และส่งตัวเขากลับไปยังโลกมนุษย์ แต่ก็เพราะพลังจากโซมาห์ของชูราโตะที่ติดตัวกลับมายังโลกมนุษย์ด้วย ทำให้เขาสามารถฟื้นความทรงจำในช่วงเวลาที่เขาต่อสู้อยู่ที่ดินแดนแห่งเทพได้ในที่สุด จนเขากลับไปยังแดนแห่งเทพได้สำเร็จ และยังสามารถทำลาย เทรลโอ ลงได้สำเร็จ รวมถึงการเอาชนะ “อคาลาตะ” ซึ่งเป็นสมาชิกคนที่ 2 ของกลุ่มสามคมเขี้ยวอสูร แต่ก็ต้องแลกกับการสูญเสีย “เรียวมะ” 1 ใน 8 เทพนักรบไป

ชูราโตะ บุกเข้าไปถึงส่วนกลางในวิหารเทนคูเดน และได้เผชิญหน้ากับ อินดร้า ซึ่งอินดร้าที่รออยู่ ก็ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงว่า แท้จริงแล้วนั้น เขาก็คือ “จักรพรรดิสายฟ้า อินดร้า” แห่งกองทัพอาซูร่า และยังสามารถเล่นงานชูราโตะซะปางตาย แต่ด้วยจิตวิญญาณของเหล่าเทพนักรบที่เสียชีวิตไป ที่ส่งเสียงเป็นกำลังใจให้ชูราโตะลุกขึ้นสู้ จนสามารถปราบอินดร้าลงได้ แต่ว่า ชูราโตะ ก็ต้องดวลเดือดกับ ไก ที่เข้ามาสู้ ต่อหน้าร่างของเทพีวิชนุที่กลายเป็นหิน แต่สุดท้าย ชูราโตะก็เอาชนะไกได้ และเทพีวิชนุก็หลุดจากคำสาป กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ดินแดนแห่งเทพเทนคุไค กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง รวมถึงเหล่านักรบเทพที่เสียชีวิตไป ก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยพลังของวิชนุ ยกเว้นไกที่ร่างและพลังนั้นอยู่นอกเหนือขอบเขตพลังของวิชนุ และหายตัวไป

กองทัพอาซูร่าที่ฟื้นกลับขึ้นมาหลังจากรอคอยมานานนับหมื่นปี ได้เริ่มรุกรานดินแดนเทนคูไค นำทัพมาโดยเทพเจ้าชีว่าที่เป็นหัวหน้าใหญ่ของทัพอาซูร่า ทำให้เหล่า 7 เทพนักรบต้องเตรียมออกศึกอย่างเต็มกำลัง และเทพีวิชนุก็ได้แนะนำให้เหล่านักรบเทพนั้น ไปตามหาเกราะเทพในตำนาน “บราห์มา” มรดกตกทอดจากเทพผู้สร้างในตำนานโบราณ ซึ่งซ่อนไว้ที่เขตพื้นที่แห่ง “ซูมิเซน” มาใช้เพื่อต่อกรกับเหล่ากองทัพอาซูร่า โดยเกราะดังกล่าวนั้น จะมีผู้ที่สวมได้เพียงคนเดียว เพราะเป็นผู้สืบทอดที่แท้จริงแห่งบราห์มา และนั่นก็คือ ชูราโตะ เหมือนกับที่เขาเคยใช้งานมาแล้วในชาติภพก่อนเมื่อ 1 หมื่นปีก่อน แต่ในเวลาเดียวกัน ไกที่อยู่กับฝั่งชีว่าและอาซูร่า ก็ได้รับคำสั่งให้ไปขัดขวางชูราโตะและแย่งชิงเกราะแห่งบราห์มา มาไว้กับฝั่งตัวเองให้ได้เช่นกัน

ระหว่างทางที่ไปค้นหาเกราะ พวกชูราโตะต้องต่อกรกับ 4 ขุนพลแห่งทัพอาซูร่า และไกที่เข้ามาขัดขวาง และยังเปิดเผยอีกด้วยว่าแท้จริงแล้วในอดีตนั้น ไกในอดีตชาติเองก็เป็นอีก 1 ผู้สืบทอดชุดเกราะแห่งบราห์มาเช่นเดียวกันกับชูราโตะ

ไกได้รับชุดเกราะแห่งบราห์มา ไปเป็นของตัวเองก่อนหน้าชูราโตะ และได้เข้าโจมตีกลุ่มของชูราโตะอย่างบ้าคลั่ง แต่สุดท้าย จิตใจของชูราโตะที่ตอบสนองต่อบราห์มาได้มากกว่าและต้องการช่วยเหลือดินแดนแห่งเทพ จึงทำให้เกราะบราห์มาที่ไกสวมใส่อยู่ เลือกชูราโตะให้เป็นผู้สวมใส่อย่างแท้จริง ทำให้ชูราโตะได้รับชุดเกราะบราห์มาไปใช้อย่างสมบูรณ์แบบ และใช้บราห์มา ปราบแก๊งค์คมเขี้ยวอสูรที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้สำเร็จ และเตรียมมุ่งหน้าเข้าไปหา “ชีว่า”

ไกกับชูราโตะ ได้มาพบกันอีกครั้ง โดยชีว่า ได้เป็นคนเฉลยเองว่า เขานั้นเป็นคนปลุก “โซห์มาด้านมืด” ที่อยู่ในตัวของไก ทำให้เขาได้มาอยู่กับฝั่งของอาซูร่า ทำให้เพื่อนรักที่เคยสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตั้งแต่ชาติภพก่อนและชาติภพปัจจุบัน ต้องกลายเป็นศัตรูกัน แต่ในช่วงที่ชูราโตะเสียทีนั้น ปาฏิหาริย์จากเกราะบราห์ม่า ที่เปล่งประกายออกมาเป็นลำแสง ทำให้จิตใจของไก โดนชำระล้างและฟื้นคืนสติกลับมาเป็นไกที่อ่อนโยนตามเดิม และพวกเขาก็ได้ร่วมมือกันต่อสู้กับ ชีว่า อย่างเต็มกำลัง แต่ในการต่อสู้ ไกได้เสียสละตัวเองเพื่อช่วยชูราโตะไว้ ทำให้ชูราโตะที่แค้นที่เพื่อนเสียชีวิตต่อหน้า ทำให้เขาระเบิดพลังออกมาเพื่อสู้กับชีว่า ระหว่างการต่อสู้ ชูราโตะสูญเสียเกราะบราห์มาไป แต่ก็อาศัยไหวพริบจองตัวเอง ระเบิดพลังโซห์มาในตัวออกมาจนทำลายชีว่าลงได้สำเร็จ

1 ปีผ่านไป หลังจากที่ปราบชีว่าลงได้ ดินแดนแห่งเทพสงบสุข ลัคชูได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองแทนที่เทพีวิชนุ และเธอได้เรียกรวมตัวเหล่าเทพนักรบที่แยกย้ายกันไปฝึกฝน ให้กลับมารวมตัวอีกครั้ง ซึ่งเป็นการมารวมตัวในงานแต่งงานของเรียวมะ 1 ในกลุ่มเทพนักรบ แต่ระหว่างงานแต่งงาน พวกเขาก็ได้รับรู้ถึงข่าวร้ายจากมังกรที่เป็นสาวกของ ฮิวงะ ที่ยังมาไม่ถึงงาน ว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น ทำให้พวกเขารีบออกตามหาตัวฮิวงะ และพบว่า เพราะโซห์มาด้านมืดที่ยังหลงเหลืออยู่จากกองทัพอาซูร่าเมื่อ 1 ปีก่อน ได้ทำให้ ลำน้ำสวรรค์ปั่นป่วนและพัดเข้าถล่มหมู่บ้านแห่งหนึ่งจนพังพินาศ ฮิวงะคนเดียวไม่สามารถรับมือและช่วยเหลือผู้คนได้เต็มที่ แต่ก็ได้กำลังเสริมจากพวกชูราโตะจนช่วยหมู่บ้านได้สำเร็จ

และคำเฉลยสุดท้ายถึงเรื่องที่ว่า ทำไมโลกมนุษย์ถึงยังมีโซห์มาด้านมืดปกคลุมอยู่ ก็เพราะว่า ทุกคนล้วนแต่มีจิตใจด้านมืดอยู่ในตัวเองทุกคน เพียงแต่ถ้าหากไม่ดึงมันออกมาให้เห็น ก็จะไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นอีก ชูราโตะจึงได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ดินแดนแห่งเทพอย่างมีความสุขสืบไป