ปลูกผักกินกับลาบ ขายช่วงภัยแล้งได้เงินเป็นแสน

1365

ชาวนาตำบลคูเมือง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ประสบปัญหาภัยแล้งไม่มีน้ำทำนา ทดลองหันมาปลูกผักพายน้อยในภาษาถิ่น หรือผักตบใบพาย หรือผักคันจองในภาษากลาง ปรากฏ 4 เดือนมีรายได้มากกว่า 1 แสนบาท ดีกว่าทำนาปลูกข้าว 6 ไร่ ได้เงินแค่ 3 หมื่นบาทเศษ

นางกัลยรัตน์ มุงคุลพรม ชาวนาบ้านโนนเมืองน้อย หมู่ 10 ต.คูเมือง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตนเคยประสบปัญหาขาดแคลนน้ำใช้ทำนาปรังเมื่อปีก่อน จึงทดลองมาปลูกผักพายน้อยในภาษาถิ่น หรือผักตบใบพายในภาษากลาง ซึ่งคนท้องถิ่นนิยมนำไปกินกับลาบ ต้ม ส้มตำ เพราะมีรสชาติขมเล็กน้อยและมีสรรพคุณเป็นยาคือ ช่วยป้องกันการป่วยเป็นไข้หัวลมช่วงมีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ได้

โดยได้หว่านเมล็ดปลูกผักชนิดนี้ประมาณ 1 ไร่เศษ เพียง 2 เดือนก็เก็บผลผลิตขายไปได้เรื่อยๆ ในราคากิโลกรัมละ 40 บาท จนกว่าการปลูกจะมีอายุครบ 4 เดือน ถ้าต้องการปลูกต่อก็ให้ลงแปลงปลูกใหม่

ระหว่างการปลูกและเก็บผลผลิตขายแต่ละรุ่นมีรายได้ประมาณ 1 แสนบาทต่อไร่ ส่วนน้ำก็ให้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยยกร่องทำเป็นน้ำขังสูงไม่เกิน 5 เซนติเมตร จึงไม่เปลืองน้ำและมีรายได้ดีกว่าปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งปลูกถึง 6 ไร่ แต่ได้เงินเพียง 3 หมื่นบาท และเหมาะกับสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปีนี้ด้วย

ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000004546