พืชผักเกือบทุกชนิดที่บุรีรัมย์มีราคาถูกสุดในรอบหลายปี หลังเกษตรกรประสบภัยแล้งไม่มีน้ำทำนาปรัง หันปลูกพืชอายุสั้นเป็นจำนวนมากจนล้นตลาด ขณะแม่ค้าเผยผักราคาถูกแต่ยอดขายกลับลดลงกว่าครึ่ง เนื่องจากชาวบ้านนำมาวางขายเอง ทำให้ต้องงดรับผักจากพ่อค้าส่งต่างจังหวัดหันมารับซื้อในพื้นที่แทน
วันนี้ (15 ม.ค. 59) จากการสำรวจราคาพืชผักในตลาดสด และตลาดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ในช่วงหน้าแล้งพบว่าปีนี้พืชผักเกือบทุกชนิดมีราคาถูกลง 1-2 เท่าตัว และถูกที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาอย่างเช่น ผักชีจากเดิมเคยรับซื้อขนาดน้ำหนักถุงละ 10 กิโลกรัมในราคา 120 บาท ปัจจุบันเหลือถุงละ 40 บาท, ต้นหอมเดิมถุงละ 80 บาท ปัจจุบันเหลือเพียงถุงละ 40 บาท, แตงกวาเดิมถุงละ 120 บาท ปัจจุบันเหลือถุงละ 70 บาท, ผักบุ้งเหลือเพียง 3 กำ 10 บาท และพืชผักอีกหลายชนิดก็มีราคาถูกลดหลั่นลงเช่นเดียวกัน
โดยพ่อค้าแม่ค้าขายผักในตลาดต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสาเหตุที่พืชผักมีราคาถูกลงในช่วงนี้ เนื่องจากเกษตรกรหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งไม่มีน้ำทำนาปรัง ประกอบกับชาวนาขายผลผลิตข้าวได้ราคาต่ำไม่คุ้นทุน จึงหันมาปลูกพืชผักอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อยกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณผักล้นตลาด แตกต่างจากช่วงหน้าแล้งของทุกปีที่พืชผักจะมีราคาแพงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ช่วงนี้พืชผักจะมีราคาถูกลง แต่ยอดขายกลับลดลงมากกว่าครึ่งอาจจะเพราะเนื่องจากชาวบ้านเกษตรกรที่ปลูกผักนำผลผลิตออกมาวางขายเอง ทำให้ประชาชนผู้บริโภคมีที่เลือกซื้อพืชผักในราคาถูกมากขึ้น ทั้งเชื่อว่าผักจะมีราคาถูกไปจนถึงเดือนเมษายน
นางธิติรัตน์ นพรัตน์ และนางกนกกุล เกื้อรัมย์ แม่ค้าขายผักในตลาดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ช่วงหน้าแล้งปีนี้พืชผักเกือบทุกชนิดมีราคาถูกลง 1-2 เท่าตัว เนื่องจากเกษตรกรหันมาปลูกพืชอายุสั้นเป็นจำนวนมากจนทำให้ปริมาณล้นตลาด ถึงแม้พ่อค้าแม่ค้าขายปลีกจะหันมารับซื้อผักจากชาวบ้านเกษตรกรในพื้นที่แทนการรับซื้อจากพ่อค้าส่งที่ จ.นครราชสีมา เพราะมีราคาถูกกว่าแต่ก็ไม่สามารถรับซื้อไว้จำนวนมากได้ เพราะช่วงนี้ขายไม่ค่อยได้เกรงจะเน่าเสียหาย
ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000005023
