เขื่อนอุบลรัตน์ น้ำเก็บกักทะลุ 111% ต้องปรับการระบายน้ำ

438

 คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำ จ.ขอนแก่น ได้มีการเสนอขอปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้สรุปรายงานสถานการณ์น้ำเก็บกักในพื้นที่เนื่องจากขณะนี้ ประมาณน้ำเก็บกักของเขื่อนอุบลรัตน์อยู่ที่ 2,698 ล้าน ลบ.ม. หรือ 111% ของความจุอ่าง โดยมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอยู่ที่วันละ 99.82 ล้าน ลบ.ม. โดยมีการระบายน้ำออกอย่ที่วันละ 25 ล้าน ลบ.ม.

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ กฟผ. ได้รายงานสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ โดยพบว่าขณะนี้มีระดับน้ำปัจจุบัน +182.66 ม.รทก. เกินระดับกักเก็บปกติ ไป 66 ซม. หรือมีปริมาณน้ำ 2,698 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น111% ของความจุอ่าง มีน้ำไหลเข้าเขื่อน 99.82 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 25 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ขณะนี้เขื่อนอุบลรัตน์มี ปริมาณน้ำเกินความจุเก็บกักปกติ 267 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กฟผ.และคณะทำงานได้มีการจำลองสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ในกรณีต่างๆ โดยสรุปได้ว่าหากมีการระบายน้ำวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. จะทำให้มีความเสี่ยงสูงที่ระดับน้ำจะเกิน +183.50 ม.รทก. จะส่งผลกระทบต่อคันดินโนนสัง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู จึงควรปรับเพิ่มการระบายน้ำเพิ่มขึ้น เป็นอย่างน้อย 35 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน

” เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของคันดินโนนสัง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน พื้นที่ อ.โนนสัง และชุมชนรอบอ่างเก็บน้ำด้วยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ในช่วงสัปดาห์หน้า 28-30 ตค. ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำ จากการเฝ้าติดตามพายุที่จะเข้ามาอีกระลอก ซึ่งหากคงปริมาณการระบายน้ำวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. จะมีความเสี่ยงที่ระดับน้ำจะไหลล้นข้ามคันดินโนนสัง อย่างแน่นอน จึงมีมติในการปรับการระบายน้ำจากวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. เป็น 35 ล้าน ลบ.ม. โดยกำหนดแผนการระบายน้ำเริ่มตั้งแต่วันนี้ปรับขึ้นเป็น 28 ล้าน ลบ.ม. วันที่ 24 ต.ค.เป็น 31 ล้าน ลบ.ม. และ วันที่ 25 ต.ค.เป็น 35 ล้าน ลบ.ม.และหากพบว่า พายุที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน ต.ค.จะส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นที่รับน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่ม ก็อาจจะต้องพิจารณาปรับเพิ่มการระบายน้ำตามที่ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำได้นำเสนอแผนการดำเนินงานมาในขณะนี้”