“เต้” ปฏิเสธที่บุรีรัมย์ ใช้เงินเดือนประกันตัว

423

ความคืบหน้ากรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ไชยา สระโสม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ได้อนุมัติออกหมายจับ เลขที่ จ.321/2564 ลงวันที่ 20 ต.ค.64 โดยกระทำความผิดฐาน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

ล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น.วันเดียวกัน นายมงคลกิตติ์ ได้เดินลงมาจาก สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังเข้าพบพนักงานสอบสวน นานกว่า 2 ชั่วโมง พร้อมกล่าวว่า วันนี้ มารับทราบข้อกล่าวหา ความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ กับหมิ่นประมาท เป็นการโพสต์ภาพ กับไลฟ์สด ส่วนการโพสต์ภาพตนไม่ได้ระบุชื่อใคร คนใดคนหนึ่ง ส่วนที่มาแจ้งความเป็นการเอาจากสื่ออื่นมาแจ้งความ ซึ่งก็ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จะใช้พยานเอกสาร หลักฐาน รวมทั้งพยานบุคคลให้พนักงานสอบสวนนำสืบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นการต่อสู้ในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งชั้นพนักงานสอบสวนก็จะมีการนัดหมายให้เอกสารรอบแรกในวันที่ 16 พ.ย.2564 ซึ่งก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องบุคคลที่เกี่ยวข้องที่พนักงานสอบสวนจะต้องไปสืบให้สิ้นกระแสความ ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่มีสิทธิ์ตัดพยาน สามารถขยายเวลาไปตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาสามารถที่จะชี้ให้เห็นว่าการพูดไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ

ซึ่ง นายมงคลกิตติ์ ได้ใช้เงินเดือน ส.ส.ประกันตัว เป็นจำนวนเงินประมาณ 45,000 บาท

ส่วนกรณีที่ ทางตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ จะแจ้งความในข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ นั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนพอทราบเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีการแจ้ง ซึ่งหากจะดำเนินการคดีก็ต้องดำเนินคดีหลังจากนี้ก็ต้องออกหมายเรียกไปตามปกติทั่วไป เพียงแต่ว่าในมุมของตนเองไม่อยากเอาเรื่องกับใคร ชั้นพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตาม เพราะว่า ตนมีเรื่องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนเดียว อย่าเอาคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเลย พนักงานสอบสวนควรจะเป็นกลางไม่ใช่มาเป็นโจทก์

ต่อข้อถามว่าจะมีการไกล่เกลี่ยกันหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็ว่ากันไป เราก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านท่านก็ทำหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลแก้ต่างไป เพราะว่า ส.ส.ในสภา โดยเฉพาะฝ่ายค้าน มีหน้าที่ในการที่จะควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะอย่าลืมว่าสถานการณ์โควิด-19 ประเทศชาติและประชาชนเสียหายค่อนข้างเยอะด้วยกัน เพราะฉะนั้นนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องส่วนรวม เพียงแต่ว่ามีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องโดยพฤติกรรม แต่โดยภาพรวมของประเทศเสียหาย ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ ท่านเป็นฝ่ายบริหารก็ต้องถูก ส.ส.ตรวจสอบ และถูกประชาชนท้วงติง เป็นเรื่องปกติ ถ้าทนไม่ได้ก็ต้องออก ถ้าทนได้ก็ต้องถูกตรวจสอบและแก้ข้อกล่าวหา