จากสถานการณ์ที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่แพงขึ้นเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะพืชผักช่วงนี้มีราคาสูงขึ้นเท่าตัว อาทิ พริกแดงจินดาจากเดิมกิโลกรัมละ 50 – 60 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 130 บาท ผักชีเดิมกิโลกรัมละ 60 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท แตงกวา และมะเขือเปราะเดิมกิโลกรัมละ 10 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 30 ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ต้องชะลอการสั่งซื้อผักจากต่างจังหวัดชั่วคราว เนื่องจากแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว ประกอบกับประชาชนก็ไม่มีกำลังซื้อเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ยอดขายลดลงจากเดิมเท่าตัว จึงได้ปรับเปลี่ยนด้วยการหันมารับซื้อผักพื้นบ้านตามฤดูกาลขายแทน อาทิ เห็ดนางฟ้า ผักสลิด ผักปรัง และขี้เหล็ก ซึ่งมีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 40 – 50 บาทเท่านั้น เมื่อนำมาขายต่อก็จะขายง่ายกว่าเพราะต้นทุนต่ำกว่า แต่บางร้านก็เลือกลดปริมาณการสั่งซื้อผักจากต่างจังหวัดลง จากเดิมที่เคยรับมาวันละ 10 กิโลกรัม ก็จะลดเหลือวันละ 5 กิโลกรัม นางฐิติรัตน์ นพรัตน์ บอกว่า หลังจากที่ราคาผักแพงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น พริกแดงจินดา ต้นหอม ผักชี ผักกาดขาว และพืชผักอีกหลายชนิดที่เคยรับมาจากต่างจังหวัด แต่ช่วงนี้มีราคาสูงจากปกติเท่าตัว จึงได้ชะลอการรับมาขาย ก็ปรับเปลี่ยนด้วยการหันมารับซื้อผักพื้นบ้านที่มีต้นทุนถูกกว่าขายแทน เพราะนอกจากต้นทุนจะต่ำกว่าแล้ว ก็ยังขายง่ายกว่าด้วยเนื่องจากประชาชนเองก็ไม่มีกำลังซื้อเช่นกัน