ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยพัฒนาธุรกิจได้อย่างไร

474
futuristic artificial intelligence face technology background

ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) เป็นที่พูดกันมาในแวดวงเทคโนโลยี มานานแล้วก่อนที่เราจะเข้าสู่ยุค 5G ซึ่งในปัจจุบัน ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence ไม่ได้อยู่ในเพียงแวดวงวิศวกรรมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังเริ่มมีบทบาทในแวดวงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการตลาด การจัดการและการบริหาร ตลอดจนไปถึงปรัชญา และชีววิทยา เนื่องจากมีการพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพราะระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence คือระบบที่ทำหน้าที่เหมือนสมองของมนุษย์นั้นเอง โดยระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence สามารถจำแนกออกเป็น 3 ประเภทได้ดังนี้

1. ปัญญาประดิษฐ์เชิงแคบ (Narrow AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์แบบอ่อน (Weak AI) : คือ AI ที่มีความสามารถเฉพาะทางได้ดีกว่ามนุษย์ (เป็นที่มาของคำว่า Narrow (แคบ) ก็คือ AI ที่เก่งในเรื่องแคบๆ หรือเรื่องเฉพาะทางนั่นเอง) อาทิ เช่น AI ที่ช่วยในการผ่าตัด (AI-assisted robotic surgery) ที่อาจจะเชี่ยวชาญเรื่องการผ่าตัดกว่าคุณหมอยุคปัจจุบัน แต่แน่นอนว่า AIตัวนี้ไม่สามารถที่จะทำอาหาร ร้องเพลง หรือทำสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากการผ่าตัดได้นั่นเอง ซึ่งผลงานวิจัยด้าน AI ณ ปัจจุบัน ยังอยู่ที่ระดับนี้

2. ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (General AI) : คือ AI ที่มีความสามารถระดับเดียวกับมนุษย์ สามารถทำทุกๆ อย่างที่มนุษย์ทำได้และได้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับมนุษย์

3. ปัญญาประดิษฐ์แบบเข้ม (Strong AI) : คือ AI ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ในหลายๆ ด้าน

เมื่อระบบปัญญาประดิษฐ์เข้าสู่ยุค 5G จะสังเกตได้ว่าในปัจจุบัน เราถูกล้อมรอบด้วย IoT หรือ Internet of Things เพื่อตอบสนองความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างดี และสามารถทำในส่วนที่มีความซับซ้อนได้ ในภาคธุรกิจเองก็ทำมาใช้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ เช่น การทำการผ่าตัดหรือรักษาโรคเฉพาะทางที่ต้องการความแม่นยำ 

การใช้งานในกลุ่มธุรกิจต่างๆ

การตลาด ปัจจุบัน AI เป็นตัวช่วยสำคัญในการเข้ามาพัฒนาศักยภาพทางด้านการตลาด โดยการบริหารจัดการเรื่องของ Big Data เพื่อนำไปวิเคราะห์ลูกค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น รวมไปถึงการเป็น Chat Bot ที่รับข้อมูลจากลูกค้าและเป็น Social listening ไปในตัว

การขาย การวิจัยและพัฒนา(R&D) การผลิตสินค้า สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ว่า สินค้าแบบไหนที่เป็นที่ต้องการของตลาด หรือคาดการล่วงหน้าเรื่องยอดขาย ปริมาณสินค้า เวลาที่เหมาะสมและข้อมูลในการตัดสินใจที่น่าเชื่อถือ จากการนำข้อมูลของ Big Data มาวิเคราะห์

การบริการ จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน ระบบ Call Center เริ่มมีการนำ AI มาใช้ควบคู่กับการใช้คนในการรับสาย โดยAI จะมีการรวบรวมข้อมูล ตอบรับ และแก้ปัญหาที่ลูกค้าพบเจอบ่อยๆ ให้กับลูกค้า 

นอกจากนั้นระบบปัญญาประดิษฐ์ยังช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้ามากขึ้น ทั้งออนไลน์และระบบหน้าร้าน เพื่อเพิ่มยอดขาย แต่การที่จะมีระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ดีนั้นต้องประกอบไปด้วยระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล พร้อมระบบ Support ที่รองรับได้ตลอด 24 ชั่วโมง

บริษัท พีพี ออนไทม์ จำกัด ฝ่ายบริการลูกค้า (NOC) โทร: 02 056 2099 Ext.1 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

Website : www.pp-ontime.co.th Facebook Page : www.facebook.com/ppontime